ประวัติวง FOALS
ช่วงก่อตั้ง (2005-2006)
แอนดรูว เมียส์ นักร้องนำวงYouthmovies เป็นผู้ฟอร์มวงFoalsขึ้นมา โดยชักชวนยานนิส(มือกีตาร์)และแจ็ค(มือกลอง)ที่เป็นเพื่อนซี้กันมานานหลังออกจากวงThe Edmund Fitzgerald พร้อมกับจิมมี่(มือกีตาร์)และวอลเตอร์(มือเบส)
Foals เริ่มต้นจากวงดนตรีที่เล่นในปาร์ตี้ตามบ้าน โดยใช้วิธีติดต่อจ้างวานผ่าน Myspace และมีชื่อเสียงเลื่องลือว่าหากใครจ้าง Foals มาเล่นที่บ้าน บ้านแห่งนั้นจะตกอยู่ในสภาพราวกับถูกทำลายสิ้นซาก เมื่อปาร์ตี้สิ้นสุด
แอนดรูวได้ร้องอยู่ในซิงเกิล “Try This on Your Piano/Look at My Furrows of Worry” แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ออกจากวง ยานนิสจึงควบตำแหน่งนักร้องนำและกีตาร์นำ
ยานนิสได้พบเจอเอ็ดวิน(มือคีย์บอร์ด)ที่บาร์แห่งหนึ่ง เขาได้ชักชวนเอ็ดวินเข้าวงจนครบเป็นวง5คน
ผลงานที่แอนดรูวได้ฝากไว้ก่อนออกจากวง
Antidotes (2007-2008)
ในต้นปี2007 วงได้ปล่อยซิงเกิล “Hummer” และ “Mathletics” ในฤดูร้อนปีเดียวกัน Foalsกำลังอัดอัลบั้มเดบิวด์แรกที่นิวยอร์ค อัลบั้มชื่อว่า “Antidotes”ได้ถูกปล่อยให้ฟังในวันที่24 มีนาคม 2008 อัลบั้มประสบความสำเร็จ ไต่ขึ้นไปอันดับ 3 ในชาร์ทอัลบั้มของUKได้
โดยสไตล์ของอัลบั้มนี้จะเป็นไปแนวMath Rockมีเทคนิคการเล่นประหลาดๆ หลักๆเช่น
แทปกีต้าร์(tapping) หรือเล่นกลองแบบไม่เป็นจังหวะต่อเนื่อง และMath rockนั้นจะมีจังหวะในเพลงที่แปลกเช่นกัน คือจะหยุดกลางเพลงแล้วเล่นต่อ (Irregular time signatures)
Cassius เกี่ยวกับการล่มสลายของอาณาจักรโรมัน
Total Life Forever (2009-2010)
ในเดือนสิงหาคมปี2009 Foalsได้เริ่มอัดอัลบั้มที่สองที่เมืองกอเทนเบิร์ก ประเทศสวีเดน, ซึ่งหลังจากปล่อยอัลบั้มชุดแรก Antidotes ที่จัดจ้านในดนตรี math rock เป็นอย่างมาก พอชุดที่สองออกมาตัวกลับสร้างทิศทางที่ดูกลมกล่อมและลงตัวให้เป็นเอกลักษณ์ให้ชุดเจนกับตัววงมากขึ้น ด้วยดนตรีกึ่ง math rock กึ่ง dance punk ที่ไม่จัดจ้านลูกเล่นมากมายมากนัก แต่กลับเสริมความนุ่มนวลให้ฟังง่ายชิลสบายๆแก่คนดูมากขึ้น
อัลบั้มเปิดแทร็คแรกด้วย Blue Blood ที่ดูเป็นดนตรีอันหวานละมุนอย่างที่ไม่เคยพอเจอในชุดแรก ตามด้วย Miami ที่ตัดสลับความรู้สึกเพลงแรกด้วยความโจ๊ะพร้อมเต้นเต็มที่ ตามด้วย Total Life Forever และ Black Gold สองเพลงที่เพิ่มความสนุกและความร็อคขึ้นอีก ก่อนจะเข้าสู่เพลงอันสุดเศร้าที่เรียกได้ว่าเป็นเพลงชาติของวง Spanish Sahara และผ่อนความเศร้าด้วยดนตรีสบายๆกับ This Orient ก่อนจะกลับมาโจ๊ะและร็อคกันอีกทีในเพลง After Glow และ Alabaster ตามมาด้วยเพลงโหยหวนเบาๆใน 2 Trees และปิดท้ายด้วยเพลงร็อคกู่ก้องใน What Remains
ถูกใช้เป็นเพลงประกอบเกม Life Is Strange
Holy Fire (2012-2013)
Holy Fire (โฮลี่ ไฟร์) คืออัลบั้มชุดที่ 3 ที่กวาดคำชมทั่วโลกว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขา ดีกว่าสองอัลบั้มแรกที่ว่าดีมากอยู่แล้วเสียอีก ซิงเกิ้ลแรก “Inhaler” ได้รับการคัดเลือกให้เป็นซิงเกิ้ลประจำสัปดาห์จากรายการวิทยุยักษ์ใหญ่ รวมถึง BBC Radio และเพลงที่โด่งดังที่สุดตลอดกาลของวงนี้อย่าง “My Number” ก็อยู่ในอัลบั้มนี้ด้วย โดยอัลบั้มนี้ได้แรงบันดาลใจจากเวทย์มนต์วูดู และยาเสพติด
MVเพลง Late Night มีความรุนแรง เลยถูกจำกัดอายุ เอาแบบLiveไปดูก่อน
What Went Down (2014-2016)
What Went Down คืออัลบั้มชุดที่สี่ของ Foals โดย Yannis Philippakis ฟรอนท์แมนของ Foals พูดถึงอัลบั้มชุดนี้ว่ามีความ “หนักหน่วงและรุนแรงที่สุดที่พวกเขาเคยทำมา” เพลงเรือธงของอัลบั้มนี้คือ ‘What Went Down’ และ ‘Mountain At My Gates’
แทร็คเปิดตัว ‘What Went Down’ ถือเป็นซิงเกิ้ลที่มีพลังทำลายล้างที่สุดของ Foals อย่างไร้ข้อกังขา ไม่ว่าจะเป็นจังหวะการเดินเบสอันดุดัน ประสานกับภาคกีตาริทึ่มที่คอยสร้างแรงสั่นสะเทือนตลอดเวลา และที่ขาดไม่ได้คือเสียงสำรอกของ Yannis ช่วงท้ายเพลงที่เปลี่ยนแนวทางการร้องราวกับเป็นเฮฟวี่เมทัลชั่วขณะ
‘Mountain At My Gates’ ลดความดุดันลงมาครึ่งหลอด เพิ่มเมโลดี้และริฟท์กีตาร์หมอลำอันเป็นสัญลักษณ์ของวงเข้ามาแทน แต่ก็ไม่พลาดที่จะสอดแทรกความบ้าคลั่งในช่วงท้ายของเพลง โดยเพลงนี้สามารถขึ้นไปเป็นอันดับ1ในชาร์ทอัลเตอร์เนทีฟร็อกของฝั่งสหรัฐ และได้ถูกคัดเลือกเป็นเพลงประกอบเกม FIFA16
Birch Tree เพลงสบายๆ ที่เหมาะไว้ฟังตอนขับรถชิลๆ
การจากลากับวอลเตอร์และ Everything Not Saved Will Be Lost (2017-2019)
ในปี2017 วงได้ออกมาประกาศว่าเตรียมจะทำอัลบั้มใหม่
ในวันที่ 5 มกราคม 2018 วงได้มีประกาศออกมาว่า วอลเตอร์(มือเบส) ได้ลาออกจากวง โดยเป็นการจากกันด้วยดี ทำให้วงเหลือสมาชิกอยู่4คน
อัลบั้ม Everything Not Saved Will Be Lost จะถูกแบ่งเป็นสองพาร์ท โดยเนื้อหาจะเกี่ยวกับสภาวะโลกร้อน การเมือง จิมมี่กล่าวว่าอัลบั้มแรกจะมีซาวด์คีย์บอร์ดเยอะกว่า ส่วนอัลบั้มสองจะเป็นกีตาร์เยอะกว่า เนื้อเพลงในพาร์ตแรกจะเริ่มมีความดาร์ก ดูสิ้นหวังกว่าเพลงอื่น ๆ เหมือนให้การได้ฟังเพลงในพาร์ตสองได้ความรู้สึกของการพยายามเอาตัวรอด ซึ่งถ้าฟังต่อกันมันก็จะเชื่อมอารมณ์ได้ต่อเนื่องกันพอดี แต่ก็แยกกันฟังได้ไม่มีปัญหา
ในวันที่ 8 มีนาคม 2019 อัลบั้ม Everything Not Saved Will Be Lost Part 1 ได้ถูกปล่อยมาให้ฟัง
ส่วนของPart 2 ถูกปล่อยมาในวันที่ 18 ตุลาคม 2019
ช่วงนี้ได้มีการทัวร์ไปทั่วโลก และได้ทำการยืมตัว “เจเรมี พริทชาร์ด” มือเบสจากวง “Everything Everything” มาร่วมทัวร์ด้วย แทนที่วอลเตอร์ที่ลาออกไป
เพลงสบายๆ เน้นเครื่องซินธ์
“เมื่อฉันล้มลง ฉันจึงได้เรียนรู้ที่จะก้าวต่อไป”

“เจเรมี พริทชาร์ด” มือเบสจากวง “Everything Everything”มาร่วมทัวร์ด้วย